หน้าแรก ท่องเที่ยวในเกาหลี Tips แนะนำการท่องเที่ยว วิธีนั่งรถบัสในเกาหลี – ใช้แอพสร้างเส้นทาง เที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง!

[ละเอียดที่สุด] วิธีนั่งรถบัสในเกาหลี – ใช้แอพสร้างเส้นทาง เที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง!

108934

เป็นอีกหนึ่งบทความที่ สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนหนึ่งเฮือก ก่อนพยายามจะเรียบเรียงทุกอย่างให้ดูง่ายที่สุด แต่ต้องยอมรับก่อนว่า การนั่งรถบัสในเกาหลี มีความท้าทายอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ถ้านั่งเป็นแล้วการที่จะไปไหนก็รู้สึกว่าจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปและการเดินทางมันจะมีสีสัน สนุกมากขึ้น ได้เห็นมุมมองใหม่ๆ เห็นบ้านเมืองจากท้องถนนที่บนรถไฟฟ้าใต้ดินก็ให้ไม่ได้.. อีกทั้งเกาหลียังเป็นประเทศที่ฟังก์ชันการทำงานของ Google Maps ไม่สมบูรณ์ มีข้อมูลน้อยมากด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย กฎหมายของเกาหลีไม่สามารถให้ข้อมูลแผนที่ กับบริษัทต่างประเทศได้ จึงทำให้การค้นหาสถานที่ ร้านค้าบางแห่ง ไม่มีข้อมูลหรือไม่อัพเดตเลย แอพแผนที่ของเกาหลีเองจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการค้นหาสถานที่ในเกาหลี

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนนั่งรถบัสในเกาหลี

1. ใช้แอพแผนที่สร้างเส้นทางให้เรา

แนะนำให้ใช้แอพพลิเคชั่นแผนที่อย่าง NAVER Map หรือ Daum map (Kakao Map) ในการสร้างเส้นทางรถบัส โดยการค้นหาสถานที่ แล้วเลือกรูปแบบการเดินทางด้วย ‘ขนส่งสาธารณะ’ เท่านี้แอพก็จะแสดงคำแนะนำการเดินทางต่างๆทั้งรถบัสและรถไฟใต้ดิน ประหยัดเวลาในการเดินค้นหาเส้นทางรถบัสด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปถามเส้นทางจากคนเกาหลี หรือตามป้ายรถบัส เพราะนอกจากจะยากแล้วยังมีข้อจำกัดเรื่องภาษา (ป้ายเดินสายรถเมล์เป็นภาษาเกาหลีเสียส่วนใหญ่) ดังนั้นใช้การใช้แอพ สร้างเส้นทางการเดินทางจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

2. มีบัตรโดยสารและเงินที่เพียงพอ

บัตรโดยสารที่พูดถึงคือ บัตร T-Money หรือ Cashbee ที่สามารถใช้เดินทางได้ทั่วทั้งเกาหลี พูดถึงค่าโดยสาร จะแบ่งตามประเภทของรถบัส รถบัสสีน้ำเงินและสีเขียวที่วิ่งในเมืองทั่วไป 1,200 วอน/เที่ยว, รถบัสสีเขียว คันเล็กๆที่วิ่งเส้นทางระยะสั้น 900 วอน, รถบัสสีแดง ที่วิ่งระหว่างเมือง 2,300 วอน/เที่ยว รถบัสรับเงินสดเหมือนกัน แต่จ่ายด้วยเงินสดจะแพงกว่าจ่ายบัตรประมาณ 100 วอน แนะนำให้เตรียมบัตรโดยสาร (ที่เติมเงินไว้พร้อมเที่ยว) จะดีกว่า

ประเภท รถบัส ในเกาหลี

3. นั่งบัสต้องมีสติ รู้กฏและมารยาทในการนั่งรถบัส

ที่บอกว่าต้องมีสติ คือต้องหมั่นดูป้ายตลอดเวลา พยายามสังเกตสิ่งรอบข้าง เพื่อไม่ให้นั่งเลยป้าย หรือลงก่อนป้าย และรู้จักกฏระเบียบของการนั่งรถบัสในเกาหลีคือ ห้ามนำเครื่องดื่มที่ไม่มีฝาปิดมิดชิด และ อาหารที่ส่งกลิ่นรุนแรง ขึ้นไปบนรถ ถ้าเกิดคนขับเห็นอาจจะปฏิเสธการขึ้นได้ รวมไปถึงสละที่นั่งให้กับคนชรา (จะมีเป็นที่คลุมเบาะ เป็นสีๆ กำกับเอาไว้) 

พร้อมแล้วเรามาลองเริ่มขึ้นรถบัสกัน

NAVER Map ใช้ยังไง? วิธีการใช้แอพ NAVER Map สร้างเส้นทางรถบัส

แนะนำแอพแผนที่ NAVER Map ด้วยเหตุผลที่ว่า แอพนี้มีภาษาอังกฤษ แม้ว่าจะไม่ค่อยสมบูรณ์ 100% แต่ก็คงดีกว่าอ่านอะไรไม่ออกกันเลย โดยสามารถดาวน์โหลดแอพนี้ได้จากทาง [App Store] หรือ [Google Play]

โดยพื้นฐานแอพจะเป็นภาษาอังกฤษ แต่ถ้าหากไม่เป็นภาษาอังกฤษ เข้าไปเปลี่ยนได้โดยการเข้าไปที่ขีด 3 แถบ เลือก 설정 (ตั้งค่า)언어 설정 (ตั้งค่าภาษา) ► เลือก English ► กดปุ่ม 확인 (ตกลง) แอพจะดับไปแล้วให้เข้าใหม่ แอพจะเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ

วิธีการเปลี่ยนภาษา แอพแผนที่ เกาหลี NAVER Map

จากนั้นตรงช่องแถบข้างบนยาวๆ ให้เราพิมพ์ชื่อสถานที่ ที่เราต้องการจะไป อาจจะใส่เป็นชื่อสถานที่ หรือค้นหาด้วยที่อยู่ (เวลาอ่านรีวิวของเว็บเรา สังเกตว่าจะมีที่อยู่ภาษาเกาหลี และภาษาอังกฤษ เขียนกำกับให้ทุกครั้งก็เพราะจะสะดวกเพื่อนๆเวลาหาร้านไม่เจอนี่ล่ะ 🙂 )

ก็จะแสดงรายการคำค้นหา ผลการค้นหาอาจจะเยอะหรือจะน้อย ก็อยู่กับว่าชื่อร้านไปซ้ำหรือมีหลายที่ หลายสาขาหรือเปล่า ยกตัวอย่างจากการค้นหาด้วยคำค้นหากว้างๆ เช่น “Sinchon station” ก็อาจจะขึ้นรายการค้นหามากกว่า 1 เช่น ห้างสรรพสินค้าสาขาใกล้ Sinchon station มาด้วยดังตัวอย่าง

ค้นหาสถานที่เที่ยว ในเกาหลี

พอคำค้นหากว้าง เราก็จะต้องแตะเลือกตำแหน่งที่ต้องการค้นหา

คำแนะนำ

หากเรารู้ที่อยู่เป็นภาษาเกาหลีหรือภาษาอังกฤษอยู่แล้ว แนะนำว่า ให้พิมพ์ หรือคัดลอกที่อยู่มาแล้ววางเข้าไปในช่องค้นหาได้เลย อันนี้ก็จะเจาะจงมากขึ้น เวลาที่เราค้นหาก็จะระบุมาที่ตัวร้าน หรือที่ตัวอาคาร ก็กันพลาดว่าจะไปผิดที่

ยกตัวอย่างการค้นหาเส้นทาง

สมมติว่าเรารู้พิกัด เป็นที่อยู่ของร้านกาแฟชื่อ “PEER COFFEE ROSTER” และมีที่อยู่เป็นภาษาอังกฤษคือ 58-3 itaewon-ro 54-gil ก็ให้เราพิมพ์ที่อยู่ลงไป อาจจะไม่ต้องพิมพ์ที่อยู่เต็มทั้งหมดก็ได้ ให้พิมพ์เฉพาะบ้านเลขที่ ชื่อถนน หรือเขตก็น่าจะเพียงพอแล้ว สำคัญคือต้องสะกดทุกตัวให้ถูกต้อง

แผนที่ เกาหลี

การค้นหาก็จะเจาะจงลงมาที่ร้านกาแฟของเราเลย ดังที่แสดงในตัวอย่างข้างบน ถ้าเรามั่นใจว่าเป็นร้านที่เราต้องการจะไปก็แตะที่ ปุ่ม To เพื่อสร้างเส้นทาง

จากนั้นแอพก็จะทำการคำนวนเวลา ระยะทาง จากวิธีการเดินทางรูปแบบต่างๆ แถบแรกที่เราเห็นจะเป็นการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ (บัส+รถไฟฟ้า) ก็จะสังเกตว่า แอพแนะนำเส้นทางการเดินทางไว้หลายแบบมาก และแบ่งแยกการเดินทางเป็นแถบสี ให้เราเข้าใจเป็นแผนภาพง่ายขึ้นว่า ต้องเดินกี่นาที, บัสกี่นาที, รถไฟสายไหน สีอะไร กี่นาที ก็ทำให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น

เส้นทางแผนที่รถบัส ในกรุงโซล

เลือกรูปแบบการเดินทางที่เราชอบ อาจจะเลือกจาก เส้นทางที่เปลี่ยนรถน้อยที่สุด หรือเดินน้อยที่สุดก็ได้ (โดยปกติ เส้นทางที่อยู่ข้างบนสุด จะเป็นเส้นทางที่ใช้เวลาเดินทางน้อยที่สุด และเร็วที่สุดมาแสดงเป็นค่าพื้นฐาน)

สัญลักษณ์ในแอพที่ใช้อธิบายเส้นทาง

จะเห็นว่าในผลการค้นหา แม้ว่าจุดหมายจะเป็นที่เดียวกัน แต่วิธีการเดินทางสามารถทำได้หลายรูปแบบ บางเส้นทางไม่ต้องเปลี่ยนสายเลย แต่เดินเยอะหน่อย บางเส้นทางเปลี่ยนรถบัสก็มี หรือนั่งรถบัสแล้วไปต่อสถานีรถไฟ เราก็จะเห็นได้จากสัญลักษณ์ต่างๆที่ใช้ในแอพ โดยเราจะมาดูวิธีการดูกันว่าสัญลักษณ์แต่ละอย่างบอกอะไรบ้าง

เส้นทางไหนที่ง่ายๆ เดินทางเพียงต่อเดียว ก็จะเป็นสีเดียวแบบนี้

แต่มันก็จะมีบางกรณี ที่เส้นทางซับซ้อนขึ้น อาจจะมีการเปลี่ยนสายรถไฟ หรือเปลี่ยนไปนั่งบัสคันอื่นๆ ก็จะแสดงด้วยสีที่แตกต่างกัน อย่างเช่นในตัวอย่างที่ 2 ข้างล่างนี้

เมื่อเราแตะที่เส้นทางใดเส้นทางหนึ่ง แอพก็จะแสดง ภาพรวมเส้นทาง ให้ดูบนแผนที่ว่าเส้นทางเป็นยังไง และต้องไปขึ้นรถบัสที่ป้ายไหน ดังในรูป

แอพจะแสดงรายนละเอียดเป็นสเต็ปๆเลยว่า จากจุดที่เราอยู่จะต้องเดินไปกี่นาที เดินไปทางไหน ในที่นี่คือ ให้เราเดินจากจุดที่อยู่ไปที่ป้าย 4 นาที และนั่งรถบัส 30 นาที และเดินจากป้ายไปสถานที่ที่เราค้นหาอีก 11 นาที (ภาพบน)

สิ่งสำคัญในภาพนี้คือ หมายเลข ID ป้าย และหมายเลขบัส

ดังนั้นเราก็ต้องเดินไปหาป้าย ข้อมูลสำคัญที่เราได้จากแอพนี้คือ ชื่อป้าย และ หมายเลขป้าย (ID) ในที่นี่คือ “Yonsei University Ap” และ “13-012”

เดินไปใกล้ๆป้าย เราก็จะเห็นว่า “งานหินมาแล้ว” มีป้ายรถบัสแถวนี้เต็มไปหมดเลย

ป้ายรถเมล์ รถบัส ในเกาหลีใต้

แล้วเราจะต้องไปนั่งฝั่งไหน !!?

นี่แหละก็คือเหตุผลว่าทำไมเราต้องมี หมายเลขป้าย (ID) กำกับเอาไว้ด้วย

จะเห็นว่าฝั่งที่เราอยู่ มีป้ายชื่อคล้ายๆกันคือ Yonsei University Front (13-114) แต่ป้ายที่เราต้องนั่งจริงๆคือ Yonsei Univ. (13-012)

หมายเลขป้ายรถบัส รถเมล์ ในเกาหลี

แล้วถ้าใครสังเกตดีๆ จะเห็นว่า ชื่อป้ายภาษาอังกฤษที่อยู่ในแอพกับของจริง เริ่มแตกต่างกันแล้ว (ในขณะที่ภาษาเกาหลียังคงเหมือนเดิม) ดังนั้น สิ่งที่อยากจะบอกตรงนี้ก็คือ “ไม่ต้องไปสนใจชื่อป้าย” ให้ดูพอรู้ว่าคือป้ายชื่ออะไร แต่จะขึ้นถูกหรือขึ้นผิด คือต้องดู หมายเลขป้าย (ID) ให้ดี

ให้เราตามหาป้ายให้เจอ ให้ถูกต้อง บนแอพยังบอกอีกว่าอีกกี่นาที/กี่ป้ายรถจะมาถึง หรือเราสามารถดูได้จากป้าย LED ที่บอกอยู่ตรงป้ายรถบัสก็ได้

ป้ายบอกรถบัสที่กำลังจะมาถึง

ขึ้นรถบัสเกาหลี ให้ขึ้นทางประตูด้านหน้า และลงประตูด้านหลัง ขึ้นมาแล้วให้แตะบัตรหนึ่งครั้งตรงแท่นแตะบัตร ที่อยู่ด้านข้างคนขับ หรือถ้าจ่ายด้วยเงินสด ให้จ่ายด้วยธนบัตรตามจำนวนให้พอดี เครื่องจะไม่สามารถทอนเงินจำนวนมากได้

จากนั้นก็หาที่นั่ง เก้าอี้ที่มีปลอกคุมสีเหลืองจะเป็นที่นั่งสำหรับผู้สูงอายุ-ผู้พิการ ยังไงก็เลี่ยงพื้นที่ตรงนั้นไว้

จากนั้นก็ให้เราเช็คว่าจะต้องไปลงที่สถานีไหน โดยรถทุกคันจะมีป้ายบอกเอาไว้ด้านหน้าสุด เป็นข้อความภาษาเกาหลี และภาษาอังกฤษ เมื่อรถบัสใกล้ถึงสถานีไหน จะมีสัญญานบอกตามลำดับดังนี้..

เสียงเวลาบอกก็จะเป็นแบบนี้~

이번 정류장은 [ ชื่อสถานี ] 입니다. 다음 정류장은 [ ชื่อสถานี ] 입니다. This stop is [ ชื่อสถานี ].
(อีบอน ชองรยูจางึน (ชื่อสถานี) อิมนิดา. ทาอึม ชองรยูจางึน (ชื่อสถานี) อิมนิดา ดิส สต๊อพ อิส (ชื่อสถานี))

ลำดับการบอก

ป้ายบอกสถานี

  1. ป้ายที่กำลังจะถึง (ภาษาเกาหลี)
    2. ป้ายถัดไป (ภาษาเกาหลี)
    3. ป้ายที่กำลังจะถึง (ภาษาอังกฤษ)

จะบอกตามลำดับแบบนี้ ดังนั้นให้เราสังเกตข้อความให้ดี ชื่อป้ายที่แสดงบนรถบัสกับในชื่อป้ายในแอพ อาจไม่ตรงกัน ตรงนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย ก็ให้ดูว่ามีส่วนใดส่วนหนึ่งของข้อความที่ตรงกัน หรือให้สังเกตว่าป้ายก่อนหน้าชื่อป้ายอะไร แล้วก็เตรียมตัวลงตั้งแต่เนิ่นๆ

เมื่อมั่นใจแล้วก็ให้ กดกริ่งให้สัญญาน ก่อนที่จะลงทุกครั้ง ถ้าไม่กดคนขับก็จะไม่เปิดประตูด้านหลังให้ลง และให้แตะบัตรโดยสาร ก่อนลงทุกครั้ง (ถ้าไม่แตะ เวลาไปเปลี่ยนสายไปสถานีอื่นๆอาจจะไม่ได้ส่วนลด)

กระดิ่งรถบัส 하차벨

ถ้าทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ ก็เข้าใจว่าเพื่อนๆน่าจะสามารถขึ้นรถบัสเองได้ไม่ยาก ลำดับต่อไปคือการเดินจากป้ายรถบัสไปสถานที่ที่เราต้องการ ซึ่งข้อดีของแอพ NAVER Map นี้ เราสามารถแตะที่ปุ่ม พิกัดปัจจุบัน 2 ครั้ง เพื่อแสดงตำแหน่งที่เราอยู่ พร้อมกับแสดงทิศที่ถูกต้องของเราด้วย เราก็สามารถเดินตามแผนที่ไปได้

วิธีการใช้แอพ แผนที่ เกาหลี

จะมีประโยชน์ก็ตรงที่ เวลาที่เราเจอแยกเยอะๆแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะต้องเลี้ยวไปทางไหน การที่ใช้ฟังก์ชันแสดงพิกัดพร้อมกับแสดงทิศทางในแอพ NAVER Map นี้ก็จะช่วยให้เราหายหลงไปได้เยอะ

สิ่งที่ท้าทายของการนั่งรถบัสในเกาหลี

1. การหาป้ายให้ถูก อันนี้ต้องใช้ทักษะในความช่างสังเกตของตัวเอง ในการตามหาป้ายรถบัส แน่นอนนั่งผิดชีวิตก็เปลี่ยน บัสเป็นอะไรที่ไม่ควรมั่วเหมือนรถไฟฟ้า แต่ป้ายรถบัสของเกาหลีส่วนใหญ่สังเกตง่าย มี หมายเลขประจำป้าย (ID) ระบุเอาไว้ชัดเจน

2. การลงรถให้ถูก ตามที่ได้เน้นไปตอนแรกว่าจะลงผิดลงถูก อยู่กับความช่างสังเกต และตั้งใจฟังจริงๆ รวมไปถึงไม่สับสน กับลำดับในการบอกป้ายของรถบัส

ก็หวังว่ารีวิวการนั่งรถบัสนี้จะมีประโยชน์กับนักเดินทางทุกคน ด้วยความที่พวกเราอยากเห็นทุกคนสามารถท่องเที่ยวเกาหลีได้ด้วยตัวเอง จึงตั้งใจเขียนบทความนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษ หากใครมีข้อสงสัยอะไรก็สามารถสอบถามใน กลุ่ม คนจะไปเกาหลี ใน Facebook กันได้เลย เรามีทีมงานที่คอยพร้อมตอบทุกคำถาม ^_^ ฝากแชร์ให้เพื่อนๆคนอื่นได้ติดตามกันต่อด้วยนะ ~

อย่าลืมกดแชร์ Like เพจของ JapaiKorea.com เพื่อติดตามข่าวสาร รวมถึงติดตาม follow ผ่านช่องทางของเราบน Twitter ด้วยล่ะ !