นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น อาเบะ ชินโซ ออกมาตรการในการกักกันนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้ และประเทศจีนเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (COVID-19) ในประเทศญี่ปุ่น
นายกรัฐมาตรี อาเบะ ได้กล่าวในที่ประชุมเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมาว่า “นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีและประเทศจีนจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ และขอความร่วมมือไม่ให้ใช้บริการขนส่งสาธารณะ” โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม เวลา 00:00 น. เป็นต้นไป จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม โดยสถานทูตญี่ปุ่นประจำสาธารณรัฐเกาหลี ได้ให้คำอธิบายเพิ่มเติมว่ายังไม่มีการกำหนดพื้นที่ที่ใช้สำหรับกักกันบริเวณ อาจจะเป็นบ้านพักหรือโรงแรม มาตรการดังกล่าวอาจเทียบได้เหมือนกับการเฝ้าระวังอาการของตัวเอง เว้นแต่ว่าหากมีอาการไข้มาตั้งแต่ก่อนเดินทางอาจจะต้องบังคับในการกักกันบริเวณ
สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองแดกู, จังหวัดคยองซังตอนเหนือและอีก 7 เขต (อันดง, คยองซาน, ยองช่อน, ชิลกก, อึยซอง, ซองจู, กุนวี) หากมีประวัติการอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจะไม่สามารถเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ โดยผลมีบังคับใช้ตั้งแต่ก่อนหน้า
โดยนโยบายนี้ไม่ได้กล่าวถึงสัญชาติใดสัญชาติหนึ่ง แต่หมายถึงชาวต่างชาติ ชาวญี่ปุ่นที่เดินทางท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้และประเทศจีน โดยจะมีผลกับสนามบินที่มุ่งหน้าสู่สนามบินนาริตะ โตเกียวและสนามบินคันไซ โอซาก้า สำหรับการเดินทางด้วยเรือโดยสารจะมีการปิดชั่วคราว รวมไปถึงยกเลิกฟรีวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับชาวเกาหลี 90 วัน โดยยกระดับมาตรการในการตรวจสอบการเข้าประเทศให้สูงขึ้น
มีการให้ความเห็นว่าการประกาศมาตรการดังกล่าวสวนทางกับการแข่งขันโอลิมปิกที่จะจัดขึ้นในกรุงโตเกียวด้วยระยะเวลาอันใกล้นี้และมองว่าเป็นการโยนความผิดให้กับทางรัฐบาลของทั้งสองประเทศ
นอกเหนือจากญี่ปุ่นแล้วประเทศออสเตรเลียยังคงมีการห้ามผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้ในวันเดียวกัน และอินโดนีเซียมีการประกาศห้ามเข้าประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากเมืองแดกูหรือจังหวัดคยองซังตอนเหนือในช่วงระยะเวลา 2 อาทิตย์ก่อนหน้านี้ด้วย
ที่มาของข่าว
